โลโก้ไอคอนนี้ เราได้มาเช่นไร…
ตลอดระยะเวลากว่า 22 ปีที่ผ่านมาของ Gems Pavilion สิ่งหนึ่งที่เป็นเสมือนสัญลักษณ์ที่มองปุ๊บก็รู้ปั๊บว่า นี่คือ ตัวแทนของแบรนด์ ก็คือ โลโก้ไอคอน ที่ตกผลึกมาจากเพชรทรงมาร์คีส์นั่นเอง แต่มันมีที่มาและมันถูกปรับปรุงเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้างมาตามดูกัน
“เรื่องชื่อแบรนด์ผมคิดมานานมาก จุดเริ่มต้นเกิดจากการที่เราเองก็ทำงานอยู่ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ด้วย คำว่า Pavilion มันก็ถูกคิดขึ้นมาว่าน่าจะเอามาใช้ จนมาผูกกับคำว่า Gems กลายเป็น Gems Pavilion ขึ้นมา” คุณท๊อป ปิยะ อัจฉริยศรีพงศ์ เล่าถึงที่มาของชื่อแบรนด์ที่กลายมาเป็นจุดเริ่มต้นของทุกๆ อย่างที่ตามมาหลังจากนั้น
“สิ่งที่ไปบรีฟกับทางคนออกแบบโลโก้ก็คือ เราอยากให้มันดูเป็นที่ที่มี Gemstones อยู่ เหมือนกับเป็นศาลาที่มีรูปทรงดูโค้งมนและมีจิวเวลรี่อยู่เต็มไปหมด คอนเซ็ปต์ตรงนี้ไล่ไปตั้งแต่การออกแบบ การออกแบบร้านของเราที่มีความโค้งเข้ามาใช้โดยตลอด เริ่มตั้งแต่ที่เวิลด์เทรด เซ็นเตอร์ ที่ร้านเป็นแบบโค้งออก มาที่พารากอน โค้งเข้า เช่นเดียวกับเอมโพเรียม จะไม่ได้เป็นร้านสี่เหลี่ยม”
“พอเราบรีฟความหมายว่าชื่อมาจากไหน เขาก็เลยออกแบบโลโก้ให้ไปในแนวนั้น ปรับกันมาเรื่อยๆ จนรู้สึกว่ายังไม่เวิร์กสักที ทำมาหลายๆ แบบ ซึ่งในที่สุดแล้วเราก็ไม่ได้ใช้เลย จึงกลับมาที่การดึงเอารูปเพชรมาใช้ แต่ส่วนใหญที่เห็น มันก็จะดูเป็นเพชรกลมธรรมดาดูไม่พิเศษโดดเด่น”
“ผมเลยเสนอว่าให้ลองใช้เป็นเพชรเชปแฟนซีแบบอื่นๆ ดูบ้าง จนมาถึงทรงมาร์คีส์ ซึ่งดูไปมามันก็ดูสวยงามดี และยังไม่มีคนใช้ ทางทีมดีไซเนอร์เลยไปลองพัฒนาขึ้นมาดู และกลายมาเป็นโลโก้ไอคอนที่เหมาะสมกับแบรนด์และถูกนำใช้จนถึงปัจจุบัน”
“มีคนที่รู้จักแบรนด์ของเรา ร่วมงานกับเจมส์ พาวิลเลี่ยนกันมานาน เรียกเราว่า Mr. Special Logo เนื่องจากเขาจำแบรนด์เราได้จากโลโก้ ด้วยความที่ไม่มีใครเอาเพชรทรงแฟนซีมาใช้เท่าไร ทำให้มั่นใจว่าโลโก้ไอคอนของเรานั้นติดตาและเป็นที่จดจำของคนทั่งไปมาอย่างยาวนาน”
และนี่เองจึงเป็นที่มาของคอลเล็กชั่นล่าสุดจากเจมส์ พาวิลเลี่ยน ที่ปรับเปลี่ยนจากโลโก้ไอคอนของแบรนด์ ให้กลายมาเป็นเครื่องประดับจิวเวลรี่ชิ้นพิเศษที่บ่งบอกถึงแนวคิดและตัวตนของเจมส์ พาวิลเลี่ยนและสะท้อนถึงรสนิยมของผู้สวมใส่ได้ดีที่สุดเช่นกัน